เรื่องราวเบื้องหลังเกม
เกม Minesweeper ปรากฏตัวขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1950 ซึ่งเป็นเวลานานก่อนยุคของอินเทอร์เน็ต และกลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้เล่นเกมกระดานอย่างรวดเร็ว ด้วยการผสมผสานระหว่างความสุ่มกับการวิเคราะห์เชิงตรรกะ ทำให้ทุกการคลิกกลายเป็นความท้าทายทางปัญญาเล็ก ๆ ในแต่ละรอบ
เกมปริศนานี้ช่วยพัฒนาทักษะการคิดเชิงพื้นที่ ตรรกะ และการวางแผนเชิงกลยุทธ์ แม้ว่าจะดูเหมือนเรียบง่าย แต่เกมนี้ต้องการสมาธิและความสามารถในการวิเคราะห์ การคลิกแต่ละครั้งคือการก้าวสู่สิ่งที่ไม่รู้ และความสำเร็จขึ้นอยู่กับความสามารถในการตีความตัวเลขที่บอกจำนวนกับระเบิดรอบ ๆ ช่อง
ประวัติเกม
เวอร์ชันแรกของเกมนี้เป็นกล่องกระดาษแข็งสามชั้น ชั้นล่างสุดมีตัวเลขและรูปกับระเบิด ชั้นกลางทำหน้าที่เป็นชั้นป้องกัน — ปกปิดเนื้อหาของช่องต่าง ๆ ส่วนชั้นบนสุดคือกระดานที่แบ่งเป็นช่อง ๆ พร้อมรูให้เจาะ ผู้เล่นจะใช้ค้อนเล็ก ๆ เจาะชั้นกลางเพื่อเปิดดูว่าช่องนั้นมีตัวเลขหรือกับระเบิด กติกาเหมือนกับเวอร์ชันปัจจุบัน — ต้องเปิดกระดานให้หมดโดยไม่ไปเจอกับระเบิด หากผู้เล่นสามารถเปิดช่องทั้งหมดได้โดยไม่พลาด จะได้รับรางวัล และผู้ผลิตจะส่งกล่องเกมใหม่มาแทนของเดิมที่ถูกเจาะแล้ว
เวอร์ชันจริงของเกมนี้ได้รับความนิยมทั้งในบ้านและในโรงเรียนในฐานะสื่อการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการคิดเชิงตรรกะของนักเรียน อีกทั้งยังมีการผลิตในจำนวนจำกัด ทำให้กลายเป็นของสะสมที่หายากในเวลาต่อมา
เกมที่ถือเป็นต้นแบบดิจิทัลของ Minesweeper คือเกม “Cub” ซึ่งสร้างโดย David Ahl หลังจากนั้นไม่นาน ในปี 1985 เกม Relentless Logic ก็เปิดตัว ซึ่งทำงานบนระบบปฏิบัติการ MS-DOS
เกม Minesweeper กลายเป็นที่นิยมอย่างมากเมื่อ Windows 3.1 เปิดตัวในปี 1992 — เกมนี้กลายเป็นเกมที่เข้าถึงผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก ตั้งแต่นั้นมา มันก็กลายเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันคลาสสิกที่มากับ Windows โดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกับ Paint และไพ่ Klondike อินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายของเกมช่วยให้ผู้เล่นสามารถจดจ่อกับตรรกะและการคำนวณได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีสิ่งรบกวน
ในเวอร์ชัน Windows รุ่นหลัง ๆ เช่น XP, Vista และ 7 — Minesweeper ได้รับการปรับปรุงกราฟิกเล็กน้อย แต่ยังคงรักษารูปแบบที่คุ้นเคยไว้ เกมนี้จึงกลายเป็นเกมยอดนิยมในสำนักงาน เล่นกันระหว่างพักจากการทำงานหรือเรียนหนังสือ
เกร็ดน่ารู้
- เกม Minesweeper ถูกใส่เข้ามาใน Windows เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เรียนรู้การใช้เมาส์และทำความคุ้นเคยกับอินเทอร์เฟซแบบกราฟิก ในยุค 90 หลายคนยังไม่ชินกับการใช้เมาส์
- การไขปริศนา Minesweeper ที่มีการวางกับระเบิดแบบสุ่ม ถือเป็นปัญหาประเภท NP-complete นั่นหมายความว่า เกมนี้ในแง่ของทฤษฎีความซับซ้อนของการคำนวณ จัดอยู่ในกลุ่มปัญหาตรรกะที่ยากที่สุดที่ไม่สามารถหาวิธีแก้ไขแบบเร็ว ๆ ได้
- ก่อนที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจะเป็นเรื่องปกติ เกม Minesweeper เป็นหนึ่งในวิธีการเล่นเกมที่ง่ายและได้รับความนิยมมากที่สุดบนคอมพิวเตอร์ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมออฟฟิศในยุค 90 อย่างรวดเร็ว
- ในเวอร์ชันเก่า ๆ ของเกม มีบางครั้งที่คุณสามารถชนะได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว หากคุณคลิกปุ่มเมาส์ทั้งสองพร้อมกันบนช่องแรก ทั้งกระดานอาจเปิดออกโดยอัตโนมัติ — และคุณก็จะชนะทันที บั๊กนี้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้เล่น และมักใช้ในการแข่งขันแบบไม่เป็นทางการที่เน้นความเร็ว
- ในช่วงยุค 90 และ 2000 เกม Minesweeper กลายเป็นปัญหาสำหรับนายจ้างบางราย เพราะเกมเปิดได้ง่ายและเล่นสนุกจนพนักงานใช้เวลาเล่นกันเป็นชั่วโมง ๆ บริษัทบางแห่งจึงตัดสินใจลบเกมนี้หรือบล็อกไม่ให้ใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานเสียสมาธิจากงาน
- เมื่อ Windows 8 ออกมา Microsoft ตัดสินใจลบเกมคลาสสิก รวมถึง Minesweeper ออกจากระบบ ทำให้เกิดกระแสไม่พอใจจากผู้ใช้อย่างมาก — หลายพันคนแสดงความไม่พอใจบนโซเชียลมีเดียและฟอรัมต่าง ๆ ต่อมาบริษัทจึงออกเวอร์ชันใหม่ของ Minesweeper บน Microsoft Store พร้อมกราฟิกที่ทันสมัย โหมดการเล่นใหม่ ๆ และระบบจัดอันดับคะแนน
- หลักการทำงานของเกม Minesweeper ยังถูกนำไปใช้ในระบบ machine learning โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจภายใต้ข้อมูลที่จำกัดและความน่าจะเป็น
ปัจจุบัน Minesweeper มีให้เล่นบนหลากหลายแพลตฟอร์ม — ทั้งเดสก์ท็อปและอุปกรณ์พกพา มีเวอร์ชันต่าง ๆ เช่น กระดานแบบหกเหลี่ยม แบบสามมิติ และโหมดเนื้อเรื่อง ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาไปมากและมีเกมที่ดูสวยงามกว่านี้มากมาย แต่ Minesweeper ก็ยังคงได้รับความนิยม ด้วยความเรียบง่าย ความท้าทายทางปัญญา และความลุ้นระทึกในแต่ละคลิกที่ยังคงดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่ได้เสมอ
พร้อมจะเล่นเกมตรรกะที่ยากที่สุดในโลกหรือยัง? ถ้าใช่ — ศึกษากติกาให้ดี มีสติ และเริ่มได้เลย!